ลืมป่วย
สวัสดีครับ ผมพีช พีรวัส 😍 ยินดีต้อนรับทุกคนสู่สังคมลืมป่วย แล้วเราจะสุขภาพดีไปด้วยกันนะครับ
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเดินวันละ 10,000 ก้าวเป็นเวลา 1 เดือน #ลืมป่วย #พีชลืมป่วย
กินข้าวเร็วเสี่ยงไขมันพอกตับ #พีชลืมป่วย #ลืมป่วย #ไขมันพอกตับ
7 อาหารบำรุงสมองป้องกันอัลไซเมอร์ #พีชลืมป่วย #ลืมป่วย #อัลไซเมอร์
สวัสดีปีใหม่ครับ 🎉
ปีใหม่นี้ ขอให้เพื่อนๆ สดใส แข็งแรง ห่างไกลความเครียด และมีพลังใจพร้อมก้าวสู่ปีใหม่อย่างมีความสุขครับ
#พีชลืมป่วย
กินไข่ต้มทุกวันผอมลงได้จริงหรือ #ลืมป่วย

"รู้หรือไม่? ทุกวันนี้มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเฉลี่ยวันละ 100 คน! (ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค, 2565) นั่นหมายความว่า...ในขณะที่คุณใช้เวลาอ่านข้อความนี้ อาจมีใครบางคนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงนี้อยู่
.
โรคหัวใจและโรคหลอดเลือด ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม! 🫀
🔹 โรคหัวใจ: ปัญหาการทำงานของหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหลอดเลือดหัวใจตีบ
🔹 โรคหลอดเลือด: การอุดตันหรือเปราะบางของหลอดเลือด เสี่ยงหลอดเลือดสมองแตกและหัวใจขาดเลือด
หลอดเลือดเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งพลังให้หัวใจทำงาน แต่ใครจะรู้...พฤติกรรมของเรานี่แหละคือความเสี่ยง
"ชีวิตประจำวันที่แสนธรรมดา” แต่แอบทำร้ายหลอดเลือดของเราทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น
1. ความเครียดสะสม
2. อาหารมัน ๆ ทอด ๆ
3. ฝุ่น PM 2.5
4. นอนดึกเป็นนิสัย
5. ดื่มกาแฟเยอะเกินไป
ใครทำครบทุกข้อ… ระวังหลอดเลือดพังไม่รู้ตัวนะครับ
เมื่อหลอดเลือดอ่อนแอ 💔 ผลลัพธ์อันตรายกับร่างกายเรากว่าที่คิด!
เพราะหลอดเลือด คือเส้นทางชีวิตที่พาหัวใจทำงานอย่างแข็งแรง เราจึงไม่ควรละเลยที่จะดูแลหลอดเลือดอย่างเด็ดขาด
เมื่อหลอดเลือดแข็งแรง หัวใจก็แข็งแรงตามไปด้วย เคล็ดลับการดูแลหลอดเลือดทำได้ง่ายๆดังนี้ครับ
✔️ทานอาหารที่ดีต่อหัวใจ เช่น ผัก ผลไม้ และไขมันดี
✔️ออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ
✔️ลดความเครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ
✔️ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ
✔️เติมโพลีฟีนอลจากธรรมชาติ ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง
โพลีฟีนอลก็คือสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรงและยืดหยุ่นดีขึ้น ลดการอักเสบและลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด และแหล่งโพลีฟีนอลหาง่าย ๆ ก็อยู่ในแอปเปิ้ลนี่แหละ เพราะธรรมชาติได้มอบสิ่งดีๆ ให้เราเสมอ
ดูแลหลอดเลือดและหัวใจของคุณ ด้วยตัวเลือกดี ๆ จากธรรมชาติ ผมอยากแนะนำ
Malee Apple Juice น้ำแอปเปิ้ล 100% ที่คัดสรรมาอย่างดี
🍎ไม่เติมน้ำตาล
🍎อุดมด้วยโพลีฟีนอล
🍎วิตามินเอ และซีสูง
🍎ช่วยให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง
🍎ป้องกันความเสียหายของเซลล์
เติมความสดชื่น พร้อมดูแลสุขภาพง่าย ๆ ได้ทุกวัน แค่วันละหนึ่งจิบ
📍หาซื้อได้แล้วที่ 7-Eleven หรือซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านทุกที่ อย่าลืมไปลองกันนะครับ!
#ลืมป่วย #โพลีฟีนอล #หลอดเลือดแข็งแรง #ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ #น้ำแอปเปิ้ลมาลี #สายซัพของหัวใจด้วยหนึ่งจิบ
ดูแลสมองยังไงเพื่อไม่ให้เป็นอัลไซเมอร์ #ลืมป่วย

เคยสงสัยไหมครับว่า มายองเนสที่เรามีติดไว้ในตู้เย็นใช้ทำอะไรได้บ้าง? และ รสชาติที่เราคุ้นเคยนี้ มีความลับอะไรซ่อนอยู่ข้างใน?
วันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ มาไขความลับของมายองเนส เพื่อดูว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเครื่องปรุงรสแสนอร่อยคืออะไรกันแน่!
มายองเนส คือเครื่องปรุงรสอาหารที่ได้จากการเอาของ 3 อย่างมารวมกันครับ
3 สิ่งนั้นก็คือ ไข่, น้ำมันพืช และน้ำส้มสายชู ซึ่งการจะทำให้วัตถุดิบทั้งสามเข้ากันได้ดี จะต้องมีการตีด้วยความเร็วและระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อทำให้ได้เครื่องปรุงรสที่มีลักษณะข้น และไม่แยกชั้นจากกัน
นอกจากนี้ อาจจะมีการปรุงรสเพิ่มเติมเพื่อทำให้มายองเนสมีรสชาติกลมกล่อม และสามารถนำไปใช้เสริมความอร่อยให้กับอาหารจานโปรดได้อย่างหลากหลาย
เพื่อนๆ น่าจะทราบดีว่า เทรนด์การกินอาหารในปัจจุบันมีการผสมผสานระหว่างอาหารหลากหลายสัญชาติ ซึ่งมายองเนสจะเป็นตัวกลางที่ทำให้เมนูอาหารมีความแตกต่าง แต่เข้ากันได้อย่างลงตัว
มายองเนส สามารถนำมาใช้กินกับอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น อาหารแนวเบเกอรี่อย่างแซนด์วิช, เบอร์เกอร์, ใช้เป็นเครื่องจิ้มเมนูของทอด/ของย่าง หรือเอาไปราดเมนูอาหารจานโปรด ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ
แต่เพราะมายองเนสมีอยู่หลายแบบ เพื่อนๆ จึงจำเป็นต้องแยกให้ออกว่า มายองเนสแบบไหนที่มีคุณภาพดี และจะช่วยทำให้อาหารอร่อยได้มากขึ้น
สิ่งสำคัญที่ต้องให้ความสนใจ ก็คือ เนื้อสัมผัสที่เนียนละเอียด, วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และรสชาติที่กลมกล่อม
แต่มายองเนสโดยทั่วไปมักจะมีไขมันสูง 70-80% ทำให้ไม่เหมาะกับการกินมากๆ แต่เนื่องด้วยเทรนด์รักสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการพัฒนาสูตรมายองเนสที่ลดไขมันลง และลดได้มากถึง 50% เลยทีเดียวครับ
หนึ่งในมายองเนสที่ดีต่อสุขภาพ และเป็นยี่ห้อที่ผมเลือก ก็คือ “คิวพี มายองเนส สูตรลดไขมัน 50%” ที่แม้ว่าไขมันจะลดลงครึ่งหนึ่ง แต่รสชาติยังคงอร่อยเหมือนเดิม
นอกจากนี้ ยังมาในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่สะดวกต่อการใช้งาน เก็บได้นานถึง 10 เดือน พร้อมเครื่องหมายรับรองคุณภาพการผลิตที่มีมาตรฐาน
เพื่อนๆ สามารถสังเกตความแตกต่างได้จากเครื่องหมาย ½ หรือ รูปใบไม้สีเขียว ที่ถ้าเห็นสัญลักษณ์นี้เมื่อไหร่ ก็รับรองได้ว่า…บีบใส่อะไรก็อร่อย แถมเฮลท์ตี้มากขึ้นอีกด้วยครับ
ไม่ใช่แค่มายองเนสเท่านั้นนะครับ ที่พัฒนาสูตรมาเพื่อคนรักสุขภาพ แต่อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ “สลัดครีม” ซึ่งลดไขมันและน้ำตาลลงถึง 50%
ถ้าเพื่อนๆ อยากอร่อยเต็มคำ แต่ยังอยากควบคุมแคลอรี่ได้ ก็ต้องเลือกสินค้าจาก KEWPIE Half Fat Series เท่านั้นนะครับ
เพราะคิวพีเขาใส่ใจในคุณภาพ และยังได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย ใครที่เป็นสายเฮลท์ตี้พลาดไม่ได้เลยครับ
#คิวพีมายองเนสลดไขมัน50% #บีบอร่อยได้ทุกเมนู
ระวัง! โรคไอกรนกำลังระบาด ดูแลตัวเองยังไงให้ปลอดภัย #ลืมป่วย #ไอกรน

งูสวัดไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะมากกว่า 9 ใน 10 คนของผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 50 ปี มีเชื้อไวรัสโรคนี้อยู่ในตัว [1]
ผมเลยอยากมาเล่าให้ฟังว่า ทำไมถึงต้องใส่ใจกับภัยเงียบที่ว่านี้ และจะมีวิธีไหนที่สามารถป้องกันโรคนี้ได้จริงๆ
โรคงูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า “Varicella Zoster” ซึ่งเป็นเชื้อตัวเดียวกับโรคอีสุกอีใสเลยครับ [2]
หรืออาจหมายความว่า ถ้าเพื่อนๆ คนไหนเคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน เชื้อตัวนี้จะยังคงแอบซ่อนอยู่ในตัวเรา และทำให้มีโอกาสเป็นโรคงูสวัดได้สูงถ้าร่างกายเราอ่อนแอลง [2]
อาการของโรคนี้จะมี 3 ระยะครับ เพื่อนๆ ลองตรวจสอบดูหน่อยว่ามีอาการปวดแสบปวดร้อน, เป็นตุ่มเป็นผื่น หรือปวดเส้นประสาทอยู่หรือเปล่า?
เพราะทั้งสามอาการนี้คือสัญญาณที่ชัดเจน และเป็นสิ่งที่เพื่อนๆ ควรสังเกตตัวเองอยู่เสมอครับ [2]
หากเพื่อนๆ เป็นโรคงูสวัดขึ้นมาเมื่อไหร่ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายกว่าที่เพื่อนๆ คิดนะครับ
เพราะโรคนี้จะทำให้ชีวิตของคนที่ป่วยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แม้ว่าผื่นจะหายแล้ว แต่ยังสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดปลายประสาท ขยับตัวลำบาก หรือนอนหลับยาก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตทั้งนั้น [2]
ที่สำคัญ ยังมีความเสี่ยงในการเป็นอัมพาต หรือเสี่ยงตาบอดได้อีกด้วย [2] ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดจึงเป็นการหาวิธีป้องกัน ไม่ให้โรคนี้เกิดกับเรานั่นเองครับ
วิธีป้องกันที่ง่ายที่สุด จำเป็นต้องพยายามดูแลร่างกายไม่ให้ภูมิตก เช่น ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอรวมถึงการตรวจสุขภาพเป็นประจำ
และเพื่อความไม่ประมาท ผู้ใหญ่วัย 50 ปีขึ้นไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับโรค วิธีการดูแลตัวเอง และการรับวัคซีนงูสวัดเป็นทางเลือกหนึ่ง เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรค หรือช่วยลดความรุนแรงของโรคได้
ปัจจุบันมีการพัฒนาวัคซีนหลายแบบครับ เพื่อนๆ สามารถคุยกับคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับวัคซีนงูสวัด และสามารถเลือกฉีดแบบที่เหมาะสมกับตัวเองได้เลย
เพื่อนคนไหนที่คิดว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ให้รีบปรึกษาแพทย์ถึงวิธีป้องกัน รวมถึงข้อมูลวัคซีนงูสวัดตั้งแต่เนิ่นๆ
วัคซีนโรคงูสวัดจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มครับ [3]
1. Recombinant Zoster เป็นวัคซีนเชื้อตาย ที่ต้องฉีด 2 เข็ม เหมาะกับคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป หรือในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีความเสี่ยงต่อโรคงูสวัดมากกว่าปกติ
2. Zoster vaccine live วัคซีนเชื้อเป็นที่ฉีดแค่เข็มเดียว เหมาะกับคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป
เพื่อนๆ สามารถใช้เกณฑ์อายุ ในการเลือกประเภทวัคซีนได้ และต้องฉีดให้ครบโดสตามที่กำหนดไว้ด้วยนะครับ เพราะวัคซีนจะได้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และเป็นเกราะป้องกันอันตรายจากโรคงูสวัดได้
และถึงแม้ว่าเพื่อนๆ จะคิดว่าตัวเองยังฟิตอยู่ ก็ไม่ควรจะละเลยการดูแลตัวเองกันนะครับ
เพราะต้องอย่าลืมว่า เชื้อของโรคงูสวัดแอบซ่อนอยู่ในคนวัย 50+ ได้มากกว่า 90% [1]
ดังนั้นจึงควรดูแลร่างกายให้แข็งแรงกันไว้แต่เนิ่นๆ
ถ้าใครอยากใช้ชีวิตสูงวัยอย่างมีความสุข ต้องไม่มองข้ามโรคงูสวัดโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ การดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือกินอาหารครบ 5 หมู่ ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลยครับ
เอกสารอ้างอิง
1. Migasena S;The International Journal of Infectious Diseases;1997;2;26;30
2.Harpaz, R. (2008). MMWR. Recommendations and reports, 57(RR-5), 1–CE4
3.คำแนะนําการให้วัคซีนป้องกันโรคสําหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ พ.ศ. 2566
#ลืมป่วย #งูสวัด #โรคงูสวัด
NP-TH-HZU-SMP-240062
ควรเริ่มต้นการลดน้ำหนักอย่างไรเพื่อให้ได้ผลในระยะยาว #ลืมป่วย #สุขภาพดี
วิธีดูแลสายตาจากการใช้งานหน้าจอเป็นเวลานาน #ลืมป่วย #สุขภาพดี
นอนหลับไม่เพียงพออาจทำให้เป็นซึมเศร้าได้ #ลืมป่วย #สุขภาพดี
8 อาหารที่ทานแล้วความดันลด #ลืมป่วย #สุขภาพดี
เราท้องเสียได้อย่างไร #สุขภาพดี #ลืมป่วย

เพื่อนๆ เชื่อไหมว่า มีคนที่เคยท้าทายตัวเอง ด้วยการกินไข่ถึง 720 ฟองใน 1 เดือน เพื่อพิสูจน์ว่าการกินไข่มากไปจะมีอันตรายต่อร่างกายหรือไม่?
ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้เขาประหลาดใจ และผมเชื่อว่าถ้าเพื่อนๆ ได้รู้ อาจจะเปลี่ยนความคิดและมุมมองการกินไข่ไปได้เลยครับ!
ความเชื่อที่ว่า “คอเลสเตอรอลในไข่ คือ ผู้ร้ายทำลายสุขภาพ” ไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไปหรอกครับ
เพราะแม้ว่าในไข่แดงจะมีปริมาณคอเลสเตอรอลที่ค่อนข้างสูง แต่งานวิจัยล่าสุดกลับบอกว่า การกินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงแทบไม่ได้สัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของคอเลสเตอรอลในเลือดเลย แถมการกินยังมีส่วนแค่ 30% เท่านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้คอเลสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้นกลับมาจากการกินไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ และอาหารที่มีน้ำตาลสูงมากกว่า ซึ่งมักพบในอาหารจำพวกทอด เจียว หรือมีน้ำมันเยอะๆ เพราะอาหารเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้ตับผลิตไขมันเลว (LDL) ให้มากขึ้น
ในทางตรงข้าม ในไข่ก็ยังมีสารอาหารตัวอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ด้วย
และถ้าเราเจาะลึกลงไปในไข่ 1 ฟอง เราจะพบว่า มีสารอาหารที่มีประโยชน์อยู่มากมาย
ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน, วิตามิน, แร่ธาตุ ซึ่งล้วนแต่มีส่วนช่วยบำรุงอวัยวะในร่างกายได้ทั้งนั้น
ดังนั้น การกินไข่วันละ 2-3 ฟองจึงเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และจะช่วยให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารคุณภาพดีอีกด้วยครับ
โดยเฉพาะในส่วนของโปรตีน เพราะโปรตีนจากไข่ถือว่าเป็นโปรตีนคุณภาพสูงประมาณ 6-7 กรัม
เวลาที่เรากินไข่เข้าไป ร่างกายจะสามารถดูดซึมโปรตีนนั้นได้เต็ม 100% แถมเมื่อโปรตีนนั้นถูกย่อยเป็นกรดอะมิโน เราก็จะได้รับกรดอะมิโนจำเป็นมากถึง 9 ชนิด ซึ่งมีส่วนสำคัญมากๆ ต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
อีกสิ่งที่ผมอยากบอกให้รู้ ก็คือ ความต้องการโปรตีนในแต่ละวันของเพื่อนๆ ไม่เท่ากันหรอกนะครับ
วิธีง่ายๆ ที่เราจะสามารถคำนวณได้ว่าตัวเราต้องการโปรตีนวันละเท่าไหร่ ก็ให้เอา 0.8 คูณกับน้ำหนักตัวของเพื่อนๆ
เช่น ถ้าผมหนัก 50 กก. ผมก็ควรกินโปรตีนให้ได้ 50x0.8 = 40 กรัม
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะยึดตัวเลขนี้ได้ทุกคนนะครับ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้แต่ละคนต้องการโปรตีนที่ไม่เท่ากัน
ดังนั้น ถ้าเรากลับมาที่คำถามว่า คนเราสามารถกินไข่ได้มากที่สุดกี่ฟอง ก็ต้องตอบว่า “ไม่มีจำนวนจำกัดที่ตายตัว” ครับ
แต่ก็เคยมีคนๆ หนึ่งที่ทดลองกินไข่ถึง 720 ฟองใน 1 เดือน ซึ่งผลลัพธ์ที่เขาได้รับ ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรงต่อสุขภาพเลย แต่กลับทำให้ไขมันเลวในร่างร่างกายของเขาลดลงไปถึง 18%
แต่อย่างที่บอกนะครับว่า ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็สามารถกินไข่ได้ในปริมาณมากแบบที่คุณคนนี้เขาทำ เพราะต้องขึ้นอยู่กับสุขภาพ และความเสี่ยงเฉพาะบุคคลด้วย
ถ้าเพื่อนๆ กินไข่ในปริมาณที่เหมาะสมรับรองว่าจะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็น เด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุก็ตาม
เลิกกังวลเรื่องคอลเลสเตอรอลได้แล้วนะครับ เพราะคนปกติสามารถกินไข่ได้ทุกวัน กินวันละ 2 ฟองก็ยังได้ครับ
ว่าแต่ว่าควรเลือกกินไข่แบบไหนให้ได้สุขภาพดี? เพื่อนๆ สามารถเลือกกินได้ทั้ง ไข่ต้ม / ไข่พะโล้ / ไข่ลวก /ไข่ออนเซน / ไข่ตุ๋น
หรือถ้าใครไม่สะดวกทำเอง ก็สามารถหาซื้อเมนูไข่ได้ที่ 7-11 เพื่อให้ได้รับคุณประโยชน์จากไข่แบบไม่ต้องเสียเวลาปรุง ทั้งสะดวกสบาย และยังอร่อยอีกด้วยครับ
อ้างอิง
https://bit.ly/4eAMEnX
https://bit.ly/4ha5Ryw
https://bit.ly/3zQU5bK
https://bit.ly/4ezeuRo
https://bit.ly/4f7OY5P
ทำไมทานโปรตีนแล้วน้ำหนักลด #ลืมป่วย #สุขภาพดี

เพื่อนๆ คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นครับ ถ้าเราเอามะละกอใส่ลงไปในโยเกิร์ต?
อาหารทั้งสองอย่างนี้ล้วนแต่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ทั้งคู่เลย แต่ถ้าเอามันมารวมกันแล้ว ประโยชน์จะมากขึ้นขนาดไหน และจะช่วยให้เกิดประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพได้อย่างไรบ้าง? วันนี้ผมมีคำตอบมาให้ครับ
มีเพื่อนๆ คนไหนชอบทานมะละกอสุกบ้างไหมครับ?
มะละกอสุกถือว่าเป็นยาระบายอ่อนๆ ที่มีประโยชน์อย่างมากเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการมีเอนไซม์ปาเปนที่ช่วยย่อยอาหาร รวมไปถึงไฟเบอร์และวิตามินที่มีส่วนช่วยดูแลสุขภาพหลายประการ
จึงไม่น่าแปลกใจเลยครับ ที่ผลไม้ชนิดนี้จะเป็นผลไม้ในดวงใจของใครหลายคน รวมถึงผมด้วยครับ
ไม่ว่าจะกินผลไม้ชนิดนี้คู่กับมื้ออาหาร หรือกินเป็นอาหารว่าง มะละกอก็ดีต่อร่างกายทั้งนั้นครับ
ในขณะที่โยเกิร์ตก็เป็นของว่างที่ดีต่อสุขภาพไม่แพ้กัน แต่จะแตกต่างไปในแง่ของสารอาหารครับ
การกินโยเกิร์ตเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย, ช่วยควบคุมน้ำหนัก, เสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงยังช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงได้ด้วย
เพื่อนๆ จะเห็นว่า โยเกิร์ตที่วางขายกันทั่วไปในตอนนี้ไม่ได้มีดีแค่ประโยชน์เท่านั้น เพราะมีการออกแบบรสชาติให้หลากหลาย เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคได้ทานของอร่อยที่ดีต่อสุขภาพได้มากขึ้น
หนึ่งในตัวเลือกที่ผมจะขอแนะนำในวันนี้ เป็นโยเกิร์ตรสชาติใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน และพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพโดยเฉพาะ ถ้าใครอยากกินโยเกิร์ตที่ให้ประโยชน์ต่อลำไส้แบบเต็มๆ ต้องเลือกโยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติกนะครับ
ผมขอแนะนำ 'ดัชชี่ไบโอผสมมะละกอ’ โยเกิร์ตที่แตกต่างแต่ลงตัว เพราะกินถ้วยนี้ถ้วยเดียวเพื่อนๆ จะได้รับประโยชน์จากโพรไบโอติกและอร่อยกับรสชาติมะละกอไปพร้อม ๆ กัน
เพราะดัชชี่ไบโอถ้วยนี้มีโพรไบโอติกสายพันธุ์เฉพาะอย่าง LGG และ B.Lactis ซึ่งเป็นโพรไบโอติกที่ดีและมีชีวิตกว่า 20,000 ล้านตัว ที่สำคัญยังเป็นโยเกิร์ต Lactose Free ที่กินง่าย สบายท้อง คนแพ้แลคโตสก็ทานได้ครับ
ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ เพราะดัชชี่ไบโอผสมมะละกอยังมีชิ้นมะละกอเล็กๆ ให้เคี้ยวเพลิน เพิ่มความอร่อยที่เอาใจไส้ไปด้วยในเวลาเดียวกัน
ถ้าใครกำลังมองหาตัวช่วยดูแลลำไส้ อยากให้ผิวพรรณผ่องใส และอยากเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายไปพร้อมๆ กัน การกิน 'ดัชชี่ไบโอผสมมะละกอ’ เป็นคำตอบของคุณประโยชน์ดีๆ ที่อัดแน่นในถ้วยเดียวครับ
แต่เพื่อนๆ ต้องอย่าลืมนะครับว่า การกินอาหารที่ดีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสร้างสุขภาพที่แข็งแรงเท่านั้น ดังนั้น เพื่อนๆ ยังจำเป็นต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่เครียดเกินไป หรือนอนหลับให้มีคุณภาพด้วย
ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นดูแลตัวเองยังไง ลองเริ่มรักตัวเองและรักลำไส้ ด้วยการกินดัชชี่ไบโอผสมมะละกอก่อนก็ได้ครับ
ใครอยากลองโยเกิร์ตรสชาติใหม่ที่อร่อยดี มีประโยชน์ และนํ้าตาลน้อยกว่า สามารถหาซื้อดัชชี่ไบโอผสมมะละกอได้แล้วที่ 7-Eleven และหนุ่มสาวดัชมิลล์-ดีไลท์ทั่วประเทศครับ
#ดัชชี่ไบโอ #ดัชชี่ไบโอคุณประโยชน์ดีดีในถ้วยเดียว #ดัชชี่ไบโอผสมมะละกอ
อ้างอิง
https://bit.ly/47K0f9O
https://bit.ly/3zDC1S6
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?
ประเภท
เว็บไซต์
ที่อยู่
Bangkok
10150